ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
เรียบเรียงข้อมูลและภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม
สวัสดีมิตรรักนักท่องเที่ยวทั้งหลายวันนี้กระปุกดอทคอมขอพาเที่ยวแบบสบาย ๆ ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ จะพาไปแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ว่ากันว่าสวยงามอลังการราวกับเอาประเทศโมร็อกโกมาตั้งไว้ที่เมืองไทยเลยทีเดียว พอจะรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะคะว่าเรากำลังพูดถึงที่ไหน ถูกต้องแล้วค่ะ "คาเมล รีพับบลิค" นั่นเอง
"คาเมล รีพับบลิค" (Camel Republic) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว "Theme Park" แห่งใหม่ของเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในรูปแบบสวนสนุกในสไตล์โมร็อกโก ถูกสร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์อูฐและฤดูร้อน โดดเด่นด้วยสีส้มอิฐ ภายในออกแบบตัวอาคารให้เหมือนสถาปัตยกรรมอาคารในแถบตะวันออกกลางสไตล์โมร็อกโก (Morroccan Architecture) ผสมผสานกับศิลปะสีสันสดใส ภายในถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ “โซนเครื่องเล่น" ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นนวัตกรรมเครื่องเล่นที่ทันสมัยและมีที่นี่แห่งเดียวในเอเชีย ต่อมาคือ “โซนสวนสัตว์" เป็นแหล่งรวบรวมสัตว์หาดูยากหลายชนิด และโซนสุดท้าย คือ "ร้านค้า" มีการจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย
มาออกสตาร์ทกันที่บริเวณด้านหน้า ลงจากรถมาก็จะเห็นความโอ่อ่าของสิ่งปลูกสร้างสีส้มสไตล์โมร็อกโกที่สวยโดดเด่นเป็นสง่า ได้ยินมาว่าเจ้าของลงทุนเดินทางไปศึกษารายละเอียดสถาปัตยกรรมลักษณะนี้ที่ประเทศโมร็อกโกด้วยตัวเองเลยเชียวนะ ประตูทางเข้าก็มีการตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์โมร็อกโกที่สวยงาม เป็นมุมที่มาถึงแล้วขอย้ำว่าห้ามพลาดควรถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกโดยด่วน เพราะสวยมากจริง ๆ ยิ่งโดยเฉพาะในยามบ่ายบริเวณนี้จะให้แสงสวยเหมาะแก่การถ่ายรูปสุด ๆ
จากบริเวณด้านหน้ายื่นบัตรผ่านประตูเข้ามาด้านใน ภาพแรกที่เห็น คือ ความหรูหรา คลาสสิก กว้างขวาง ไม่แออัด บรรยากาศดี มีการจัดสรรพื้นที่ออกมาได้อย่างสวยงาม แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เหมาะแก่การพาครอบครัวมาเดินเที่ยวเล่นได้สบาย ๆ ทั้งนี้แนะนำให้พกหมวก พกร่มมาด้วย เพราะวันไหนที่แดดแรง ๆ คงร้อนเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ไม่รอช้าขอเริ่มพาทัวร์ที่โซนเครื่องเล่นกันก่อนเลยดีกว่า ที่นี่เครื่องเล่นแต่ละอย่างเด็ดจริงอะไรจริง เป็นที่สุดแห่งนวัตกรรม ทันสมัย แปลกใหม่สุด ๆ และที่สำคัญเครื่องเล่นส่วนใหญ่เป็นเครื่องแรกและเครื่องเดียวในเอเชียอีกด้วยนะ มาดูกันว่าเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์เด็ดมีอะไรบ้าง
เริ่มต้นกันที่ "Flying Macaw" เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่แรกในไทยและที่เดียวในเอเชีย 3 ตัว อยู่ในเยอรมนี ส่วนตัวที่ 4 คือเครื่องนี้เจ๋งสุด ๆ มันจะทำหน้าที่พาเราทะยานสู่ท้องฟ้า โฉบเฉี่ยวไปมาท่ามกลางเวหาได้ตามที่ใจต้องการราวกับบินอยู่ท่ามกลางฝูงนกมาคอว์ เราสามารถกำหนดทิศทางปีกของมันได้ 360 องศา เป็นเครื่องเล่นที่สร้างความหวาดเสียวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ใครที่เป็นโรคหัวใจห้ามเล่นโดยเด็ดขาด !
มาต่อกันที่ "Eagle Zipline" เป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดจากประเทศอเมริกามีที่เดียวในเอเชีย และเป็นตัวที่ 4 ของโลก เครื่องเล่นตัวนี้จะวิ่งถอยหลังขึ้นไปจนสุดด้วยความเร็วสูง แล้วปล่อยให้เราชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาบนความสูง 30 เมตร ไม่กี่วินาทีก็จะปล่อยลงมาด้วยความเร็วแรงจนขนตาปลิวเสมือนบินโฉบท่ามกลางเวหาดั่งนกอินทรีล่าเหยื่อ อยากให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง เสียวนิด ๆ แต่มันสุด ๆ ขอบอก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
ถัดมาคือ "Midi Dance 360" เป็นเครื่องเล่นที่ใช้หลักการของแรงโน้มถ่วง หมุนขึ้นไปแล้วไปก็จะไปหมุนกลางอากาศต่ออีก หลังจากนั้นก็จะหมุนอีก 360 องศา น้ำหนักทิ้งลงด้านไหนก็จะหมุนลงด้านนั้น เครื่องเล่นตัวนี้ขอบอกเลยว่าเล่นเสร็จแล้วแทบจะเป็นลม ใครที่ไม่ไหวแนะนำให้เลือกเล่นเครื่องเล่นชนิดอื่นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคุณจะมีอาการมึนงงไป 3 วันติดเลยทีเดียว
หลังจากมึน ๆ งง ๆ เดินเซลงมาจาก Midi Dance 360 เลยแวะนั่งพักดมยาดมสักครู่ พร้อมต่อด้วย "Drop Twist" ตัวนี้มันจะพาเราขึ้นไปจุดสูงสุดแล้ว Drop ลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว เป็นอะไรที่เสียววูบท้องมาก ๆ แนะนำว่าถ้าจะเล่นอย่าเพิ่งทานข้าวไปก่อนเพราะอาจมีอ้วกได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
เล่น Drop Twist เสร็จเรียบร้อยก็ลงมาแบบขาสั่น ๆ แทบเดินไม่ไหว เลยขอเปลี่ยนแนวมาเก็บภาพแทนไม่ขอเล่นอะไรต่ออีกแล้ว เดินถัดมาด้านหลังจะเป็น “โซน Family" ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกหลานมาเล่นได้ ส่วนคุณหนู ๆ ก็ไม่ต้องห่วงมีโซนของเล่นเบา ๆ ให้เล่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น "4 D Movie Theatre" โรงหนัง 4 มิติ สุดทันสมัย มีหนังหลายเรื่องที่น่าสนใจให้เลือกชม ภาพคมชัดสมจริง น่าตื่นตาตื่นใจ ใช้เวลาฉายประมาณ 8-11 นาที เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ สามารถเข้าชมได้ทั้งครอบครัว แต่ถ้าไม่ชอบดูหนังจะเปลี่ยนไปเล่น "Pony Cycle" (ม้าโยก) ก็สนุกได้เหมือนกัน โดยหลักการของเจ้าเครื่องนี้ ก็คือ เด็ก ๆ จะได้บริหารตัวเองไปในตัว ขยับได้ทุกส่วนของร่างกาย สามารถลุกนั่ง และควบคุมทิศทางของมันได้ ทำให้พวกเขาได้จินตนาการว่าตัวเองขี่ม้าจริง ๆ นอกจากนี้ยังมี "Trampoline" เครื่องที่สอนจินตนาการของเด็ก โดยพวกเขาจะได้คิดว่าตัวเองกระโดดตีลังกาหน้า-หลัง ซ้าย-ขวา ซึ่งสามารถเสริมสร้างสมองของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
มาถึงเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์ของโซน Family อย่าง "Zero Gravity" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่เป็นที่เดียวในเอเชีย ที่จะเหวี่ยงคุณด้วยความเร็วดั่งพายุและไร้การทรงตัวเสมือนอยู่ในสุญญากาศ เสร็จแล้วตัวเราก็จะไปติดอยู่ที่ผนัง ลอยไปท่าไหนก็จะติดอยู่ท่านั้น จะสนุกเร้าใจขนาดไหนต้องมาลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ และตัวสุดท้ายของโซนนี้คือ "Gyro Extreme" เครื่องเล่นที่จะหมุนแบบสุด ๆ เสมือนเราอยู่ใจกลางพายุ สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว แต่ก็ขอแนะนำอีกว่าห้ามทานข้าวก่อนเล่นไม่อย่างนั้นจะอ้วกอีกระลอกนะจ๊ะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์สุดเด็ดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าใกล้กับทางออก ที่ใครเห็นเป็นต้องตะลึงนั่นก็คือ "SkyFly" หรือ "Sky Diving Simulator" เครื่องเล่นเครื่องแรกและเครื่องเดียวในประเทศไทย และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในเอเชียและยุโรป เป็นเครื่องเล่นที่จำลองการกระโดดร่มที่มีมาตรฐานระดับโลก มันจะส่งตัวเราให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยพัดลมขนาดใหญ่ยักษ์เสียงดังสนั่น พอค่อย ๆ ลอยขึ้นจะรู้สึกได้ถึงความเป็นอิสระกลางเวหา สามารถเคลื่อนไหวไปมาขึ้น-ลงได้ตามใจต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย ทั้งนี้ต้องฝึกอบรมก่อนขึ้นบินประมาณ 20 นาที และไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย ที่นี่เขามีครูฝึกมากประสบการณ์ รับประกันว่าท่านจะสนุกสนานได้แบบไร้กังวล ส่วนใครที่รู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจห้ามเล่นทีเดียวเชียวล่ะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเครื่องเล่นของที่นี่ อยากมาเที่ยวกันแล้วล่ะสิท่า เอาเป็นว่าขอพักเรื่องเครื่องเล่นไว้ก่อน จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นชิล ๆ ชมวิวรอบ ๆ พร้อมกับแวะไปโซน "สวนสัตว์" กันต่อเลยดีกว่า สวนสัตว์ของที่นี่โดดเด่นตรงที่ถึงแม้จะมีขนาดย่อมแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกแออัด มีพื้นที่ให้สัตว์อาศัยอยู่อย่างอิสระ สามารถเดินดูการใช้ชีวิตของมันและให้อาหารได้แบบใกล้ชิด โดยพระเอกของที่นี่ก็คือ "อูฐ" (Camel) นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย สามารถสัมผัสและยื่นให้อาหารได้แบบใกล้ชิดแบบที่หาไม่ได้จากสวนสัตว์อื่น
เดินถัดมาอีกหน่อยก็จะเจอเจ้า "Angora Goat" เป็นแพะจากที่ราบสูง พบมากในแถบประเทศตุรกี ขนของมันจะหยิกเป็นรอนสวยมาก ใครที่ยังไม่เคยเห็นลองแวะมาดูได้
เยื้อง ๆ กันจะมีโซน "เป็ดและหงส์" ที่พากันว่ายน้ำในสระสีฟ้ากันอย่างสนุกสนาน สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปกับมันได้
ถัดมาจะเป็นบ่อ "ปลาคาร์ฟ" ทีเด็ดคือปลาคาร์ฟที่นี่จะกินอาหารจากขวดนม เราสามารถยื่นขวดนมลงไปป้อนในน้ำได้เลย น้อง ๆ เขาก็จะมาแย่งกันกินจนน้ำกระเด็นเต็มไปหมด เป็นการให้อาหารสัตว์ที่แปลกแหวกแนวสุด ๆ
หลังจากมอมแมมกับน้ำในบ่อปลาคาร์ฟก็เดินมาฝั่งตรงข้ามเพื่อมาชมเจ้าหนู "อัลปาก้า" (Alpaca) ขนปุย แสนเชื่อง เจ้าหน้าที่บอกว่าอัลปาก้าที่นี่มีจุดเด่นคือขนนุ่มเป็นอันดับ 3 รองจากมิ้งค์ พอได้ลองสัมผัสแล้วก็พบว่านิ่มอย่างที่เขาบอกจริง ๆ อัลปาก้าที่อื่นอาจจะถูกจำกัดให้อยู่แต่ในรั้ว แต่ที่นี่ปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ แถมให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปจับเข้าไปถ่ายรูปได้อย่างสบาย ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
หลังจากที่ยืนถ่ายรูปกับอัลปาก้าอยู่นานเลยเดินออกมาเยี่ยม "ยีราฟ" (Giraffe) คอยาวโซนข้าง ๆ ที่ไม่ยอมเดินออกมาอวดโฉมเพราะแดดร้อน แต่ก็หยิ่งได้ไม่นานสุดท้ายก็เดินออกมาให้ถ่ายรูปไว้จนได้ ส่วนใครอยากชมนกน้อยน่ารักก็เดินโค้งมาหน่อยก็จะพบกับอาณาจักรของนกหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง "นกมาคอว์" (Macaw) ที่เกาะกิ่งไม้อวดโฉมรอคนมาถ่ายรูปอย่างสง่างาม หรือจะเป็น "นกฟินซ์ 7 สี" (Finch) ที่รวมตัวกันอยู่ในกรงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเชื้อเชิญให้เข้าไปทักทาย เดินถัดมาอีกนิดสามารถเข้าไปให้อาหารนกแก้วแสนรู้ "ซันคอนัวร์" (Sun Conure) ตัวน้อย อัธยาศัยดี ขี้อ้อน ที่จะมายืนกินอาหารบนมือของเราแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเรียกให้ยุ่งยาก
กว่า 15 นาที ที่อยู่ในนั้นออกมาพร้อมกับขี้นกติดหัวติดหลังนิดหน่อยก็เลยเดินย้อนกลับไปเข้าห้องน้ำบริเวณด้านหน้าแถว ๆ เครื่องเล่น Flying Macaw เข้าไปถึงกับอึ้ง ! ห้องน้ำหรือนี่ ? อลังการงานสร้างมาก ๆ แม้แต่ห้องน้ำยังเป็นสไตล์โมร็อกโกขนาดนี้เชียว หรือติดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจจนแทบไม่อยากออกมา แม่บ้านทำความสะอาดบอกว่าห้องน้ำของที่นี่มีนักท่องเที่ยวชอบเข้ามาถ่ายรูปมากกว่าบรรยากาศข้างนอกเสียอีก สุดยอดจริง ๆ
หลังจากเสร็จธุระเช็ดคราบขี้นกเรียบร้อยก็เดินย้อนกลับมาอีกสองจุดที่เหลือเพื่อมายลโฉมเจ้านกขายาวหน้าสวย "ฟลามิงโก้" (Flamigo) ที่นำเข้าจากอเมริกา พบมากแถวเคนย่า ซึ่งเราไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศก็สามารถมาดูเรียวขาและท่วงท่าการเดินที่สง่างามของมันได้ที่นี่ โซนถัดมาเป็นสัตว์ที่หาดูได้ยาก จะว่าน่ารักก็น่ารัก จะว่าแปลกก็แปลก สรุปแล้วมันเป็นกระต่ายหรือตัวอะไรกันแน่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ลองถามเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าเจ้าตัวนี้ชื่อ "Patagonian Mara" เป็นสัตว์ประเภทฟันแทะ (Rodent) มาจากประเทศอาร์เจนตินา เป็นสายพันธุ์เดียวกับกระต่าย แต่จะว่าไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ใครที่ยังไม่เคยเห็นและอยากมาสัมผัสตัวเป็น ๆ รีบขับรถตรงมาได้เลย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
เอาล่ะ ! ครบถ้วนทั้งเล่นทั้งเดิน ณ จุดนี้เหนื่อยมากเลยแวะมานั่งพักกินน้ำกินท่าคลายร้อนที่ร้านชื่อเก๋ "นม 6" ภายในโซน "ร้านค้า" ที่นี่มีเมนูอาหารคาวหวานให้เลือกมากมาย ด้วยความที่เหนื่อยและหิวมากเลยสั่งเซตไข่ดาว ฮอตดอก เบคอน ขนมปังปิ้ง พร้อมด้วยชานมเย็นและชามะนาว เต็มที่สุด ๆ ส่วนค่าเสียหายก็ไม่ถึงกับแรงมากพอรับได้ นอกจากนั้นในโซนนี้ยังมีร้านค้าอีกมากมายทั้งร้านไอศกรีมผลไม้ ร้านเครปเย็น ฮอตดอก โฮมเมดเบอร์เกอร์ บะหมี่ ขาหมู ผัดไท ฯลฯ อยากทานอะไรก็เลือกได้ตามใจชอบ
หลังจากอิ่มท้องก็ออกมาเดินย่อยตบท้ายด้วยการแวะดูของที่ระลึกใกล้ ๆ กับทางออกด้านหน้า ภายในร้านมีของที่ระลึกน่ารัก ๆ มากมายให้เลือกซื้อ ทั้งตุ๊กตาสุดแสนน่ารัก หมวก ผ้าพันคอ เสื้อยืดหลากหลายสไตล์ ของจุกจิก ฯลฯ ส่วนตัวไม่ได้ซื้ออะไรติดมือกลับไปด้วย แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ ความสุข ความสนุก และความประทับใจกลับมาแทน เชื่อว่าที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามแน่นอน ฉะนั้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้หากใครยังไม่มีธุระที่ไหนก็ขอเชิญแวะมาเที่ยวที่ "คาเมล รีพับบลิค" แห่งนี้กันดู รับรองว่าจะได้รับประสบการณ์สุดสนุกที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืมเลยล่ะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนไว้โอกาสหน้าจะพาไปทัวร์ที่ไหนคอยติดตาม ^____^
อัตราค่าเข้าชมไม่รวมค่าเครื่องเล่น 
ชาวต่างชาติ ท่านละ 200 บาท ชาวไทย ผู้ใหญ่ ท่านละ 120 บาท เด็ก ส่วนสูง 90-130 เซนติเมตร ท่านละ 90 บาท (เด็กที่มีส่วนสูงไม่ถึง 90 เซนติเมตร เข้าชมฟรี) ผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป ท่านละ 90 บาท อัตราค่าบริการเครื่องเล่นต่าง ๆ Ticket 1 ใบ ราคา 120 บาท Flying Macaw ใช้ Ticket 2 ใบ Eagle Zipline ใช้ Ticket 2 ใบ Drop Twist ใช้ Ticket 1 ใบ Pony Cycle (ม้าโยก) ใช้ Ticket 1 ใบ Trampoline ใช้ Ticket 1 ใบ Gyro Extreme ใช้ Ticket 1 ใบ Zero Gravity ใช้ Ticket 1 ใบ Midi Dance 360 องศา ใช้ Ticket 2 ใบ ทั้งนี้ "คาเมล รีพับบลิค" เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-18.00 น. วันศุกร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-19.00 น. เยื้องซานโตรินี พาร์ค ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 76120 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 3289 0860-2, 09 2269 5055 สำนักงานกรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2434 6921-8 หรือ www.facebook.com/camelrepublic
การเดินทาง : คาเมล รีพับบลิค ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพ ฯ มุ่งหน้าไปทางหัวหิน ผ่าน Swiss Sheep Farm แล้วจะพบ Camel Republic สังเกตไม่ยากจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ 
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Camel Republic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น